อย่างที่ทราบกันดีว่าสภาพอากาศเมืองไทยบ้านเรานั้นค่อนข้างร้อนไปจนถึงร้อนมากหลายคนจำเป็นต้องติดแอร์ เพื่อปรับสภาพอากาศให้มีอุณหภูมิที่ต่ำลงและเย็นสบายยิ่งขึ้น เพราะบางคนหากอากาศร้อนจัดจะทำให้เกิดเหงื่อ และมีอาการแพ้เหงื่อตัวตนเองจนทำให้เกิดผื่นคันส่งผลให้ใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างยากลำบาก แต่แน่นอนว่าเมื่อเปิดแอร์ทั้งวันสิ่งที่ตามมาก็คือเรื่องของค่าไฟ ที่ทำเอาหลายคนต้องสะดุ้งเมื่อถึงเวลาสิ้นเดือนจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่หลายคนมักจะหาวิธีช่วยประหยัดค่าไฟ แต่ในทางกลับกัน หากทำผิดวิธีจากการที่จะช่วยประหยัดค่าไฟ กับทำให้คุณต้องจ่ายค่าไฟแพงกว่าเดิม วันนี้เราจึงได้นำเอาวิธีการใช้แอร์แบบผิดๆที่ไม่ควรทำมาฝากกัน
วิธีการใช้แอร์แบบผิดๆที่ไม่ควรทำ
- ยิ่งค่า BTU สูงยิ่งดี เพราะว่าหลายคนเชื่อว่าเครื่องที่มี BTU จะช่วยให้แอร์เย็นขึ้น แต่พวกเราก็ลืมคิดไปว่า หากความเย็นที่ไม่คงที่ของแอร์ที่มี BTU สูง จะทำให้คอมเพรสเซอร์ตัดบ่อย ซึ่งเป็นเหตุให้การทำงานของคอมเพรสเซอร์ ทำงานบ่อยขึ้นอีกด้วย จึงให้หเครื่องทำงานหนักกว่าปกติ นอกจากนี้ยังทำให้คุณจะต้องเสียค่าไฟแพงกว่า แอร์ที่มี BTU ที่เป็นมาตรฐานกับห้องอีกด้วย
- ใช้เครื่องเก่าไม่ยอมเปลี่ยน แน่นอนเลยว่าแอร์เก่าก็ยังใช้งานได้อยู่ แต่ระบบของสมัยก่อนมักจะไม่ค่อยประหยัดไฟเท่าไหร่ แถมยังมีเสียงดังอีกด้วย การเปลี่ยนแอร์ที่มีอายุการใช้งานเกิน 15 ปี และทำการติดตั้งแอร์ใหม่ นอกจากจะช่วยให้คุณเสียค่าไฟถูกลงอีกแล้ว ยังช่วยให้ไม่ต้องหาเงินมาซ่อมบำรุงรักษาแอร์เครื่องเก่าด้วย
- เปิดแอร์พร้อมพัดลมทำให้เปลืองไฟ ที่จริงแล้วการเปิดพัดลมพร้อมกับเปิดแอร์ เป็นสิ่งที่ดีมากๆ เพราะตัวช่วยให้อุณภูมิของห้องสามารภไหลเวียนได้ดีขึ้น ยังช่วยให้ห้องเย็นเร็วกว่าปกติอีกเท่าตัวอีกด้วย นอกจากนี้การเปิดพัดลมที่ช่วยลดอุณภูมิ เรายังสามารถเปิดแอร์ได้ 27 องศา ยังช่วยให้เย็นสบายเหมือนเปิดที่ 25 องศาอีกด้วย
- อุณหภูมิ 25 องศา ช่วยประหยัดไฟได้มากที่สุด อันที่จริงแล้วการเปิดแอร์ที่ 25 องศา สำหรับพื้นที่โซนหนาว จะเป็นการประหยัดไฟได้เหมือนกัน แต่หากในช่วงฤดูร้อน บอกเลยว่าคอมเพรสเซอร์จะทำงานหนักมาก โดยเฉพาะอากาศประเทศไทย ที่จะต้องหมั่นรักษาความสะอาดแอร์ เพื่อให้แอร์สามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพอยู่เสมอ
- เปิด-ปิดแอร์บ่อยประหยัดไฟมากกว่า ซึ่งแท้จริงแล้วการเปิดแอร์ทิ้งไว้ด้วยความเย็นที่คงที่แล้ว แอร์จะทำงานเพียงแค่พัดลมเท่านั้น โดยที่คอมเพรสเซอร์จะไม่มีการทำงาน แต่หากเราทำการปิดแอร์ไปในช่วงระยะเวลาหนึ่ง อุณภูมิห้องก็จะร้อน จะทำให้คอมเพรสเซอร์จะต้องเริ่มทำงานใหม่อีกครั้งนั้นเอง

เป็นอย่างไรกันบ้างลองตรวจสอบพฤติกรรมของตนเองและคนในบ้าน ดูแล้วเข้าข่ายมีพฤติกรรมการใช้แอร์แบบผิดๆหรือไม่ หากตรวจสอบดูแล้วมีการ ใช้แอร์แบบผิดๆ อยู่ก็ควรที่จะปรับเปลี่ยนวิธีการใช้เสียใหม่เพื่อที่จะไม่ทำให้คุณจะต้องมานั่งจ่ายค่าไฟที่แพงกว่าเดิมในทุกๆเดือน